Japan Trip 2019 Day 1

วันแรกไม่นับ เพราะเป็นการเดินทางออกจากกทม.ตอน 5 ทุ่ม ถึง Tokyo ก็ แปดโมงเช้าแล้ว กว่าจะผ่าน ตม.ก็กินเวลาเป็นชั่วโมง เสร็จแล้วต้องรีบมาออกตั๋วรถไฟที่ JR Office นั่งรถเข้าเมืองเสร็จก็ รีบฝากกระเป๋า แล้วนั่งรถไฟมาเที่ยวที่ ฮาราจูกุก่อนเลย

เครปญี่ปุ่นที่ Takeshita Street หรือ Harajuku

เดินทะลุมาเจอถนน MeiJi Dori ข้ามถนนไปต่อ ปากซอยเจอช้อปของ New Balance ใหญ่โต

แหล่งศูนย์รวมวัยรุ่นของที่นี่เลย แต่งตัวกันเก่งๆทั้งนั้น มาเดินโชว์กัน

หันหลังกลับไปมอง ทาเคชิตะ

ฝรั่งเดินมาพอดี Background สีแสบสัน

ร้าน KOI ที่นี่ก็เข้าคิวเหมือนกัน ญี่ปุ่นนี่เขาไม่มีท้อ เรื่องเข้าคิวกินของอร่อย

ถนนนี้เดินตรงไปทาง Omotesando ร้านแฟชั่นเรียงรายตลอดทาง คนก็เดินกันขวักไขว่

อากาศหนาวก็ดีไปอย่าง คือเดินไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะวัยรุ่นทั้งนั้น

โอโมเตะซานโดะ ถนนแฟชั่นแบรนด์เนม มีแต่คนแต่งตัวดีๆ ถ้าแต่งตัวโทรมๆนั่นนักท่องเที่ยว

สะพานลอยคนข้ามถนน จุดถ่ายรูปที่ชอบมาก

Cat Street ก็แหล่งแฟชั่นอีกเหมือนกัน อยู่ละแวกเดียวกันนั่นทั้งแถบ

ต้นไม้ช่วงเข้าหน้าหนาวแล้วจะเหี่ยวๆแบบนี้ ถ้าจะมาช่วงเปลี่ยนสีต้องปลาย พ.ย.

หนุ่มฝรั่งเดินมาเข้าซีนพอดีครับ ขวามือนี่เป็นช้อป Adidas

ห้างนี้ไม่ได้แวะเข้าไปครับ ขี้เกียจข้ามถนน รีบไปขึ้นรถไฟไปต่อ

Omotesando

สถานีรถไฟฮาราจูกุ สไตล์บาวาเรีย

มาโผล่ที่ Daiba ช่วงเย็น ฟ้าเน่าเรียบร้อยครับ ลมแรงและเย็นมากๆ ผิดหวัง

 วันแรกเป็นอันว่าพลาดเป้าที่ Daiba หวังจะมาเก็บแสงเย็นที่นี่ อุตส่าห์ฝ่าลมหนาวมา เจอฟ้าแบบนี้ก็เหนื่อยใจครับ บนรถไฟก็ไม่ได้ภาพ เพราะคนแน่นมาก เจอยึดตำแหน่งหัวขบวนไปเรียบร้อย อ่อนหัดไปหน่อยตามเกมส์ไม่ทัน เลยไปยืนรอผิดตู้ วันแรกจบลงด้วยอาการอ่อนล้า เพราะลงจากเครื่องบินมาก็เดินหลายกิโล อาจเป็นการวางแผนผิดพลาดก็ได้นะ ถ้ามาถึงที่นี่ช่วงบ่ายๆเย็นแล้วพักผ่อน แม้จะเสียเวลาไปวันนึง แต่ก็ไม่เหนื่อยมาก และหน้าหนาวจะพลบค่ำเร็วมาก ต้องคำนวนเวลาให้ดีๆ